#ชลบุรี ผู้ว่าชลบุรีร่วมกับ ผบก.ชลบุรีแจงข้อเท็จจริง คลับวันอ้างว่าจ่ายเงินตำรวจ ผู้ว่าฯ
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 25 ตุลาคม ที่ห้องประชุมชลบุรี ศาลากลางจังหวัดชลบุรี อ.เมือง จ.ชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ร่วมกันแถลงข่าวกรณีเจ้าหน้าที่ป้องกันจังหวัดชลบุรี สนธิกำลัง สภ.เมืองพัทยา รวมทั้ง บก.สส.ภ.2 ได้เข้าตรวจสอบคลับดังกลางเมืองพัทยา “คลับวัน พัทยา” ตั้งอยู่ริมถนนสายเพชรตระกูล พัทยาเหนือ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวประมาณ 200 คน และยังพบยาเสพติดที่นักท่องเที่ยวทิ้งไว้เกลื่อนในผับดังกล่าว เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการอ้างจ่ายเงินให้กับผู้ว่าฯ และตำรวจ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากมาย จึงได้มาร่วมกันแถลงข่าวในครั้งนี้
นายธวัชชัยกล่าวว่า ในการจับกุมร้านคลับวันในครั้งนี้ เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาตี 3 เศษวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ภายหลังจากการเกิดเหตุปรากฏว่าได้มีการรายงานข่าวว่า มีทั้งผู้ว่าฯ และตำรวจรับเงิน ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากมายทั้งฝ่ายปกครอง และตำรวจ ซึ่งในการจับกุมร้านคลับวันเนื่องมาจากได้รับนโยบายในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในสถานบริการ หลังจากนั้นได้รับรายงานว่าที่ร้านคลับวันมีการมั่วสุมยาเสพติด จึงได้เข้าทำการตรวจค้น และพบว่ามียาเสพติดตกอยู่ภายในร้านจำนวนมาก จึงได้ดำเนินคดีกับนายมณู ยิ้มอยู่ ผู้ดูแลร้านและแจ้ง 4 ข้อหา ประกอบไปด้วยจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือยาเสพติดเข้าไปสถานที่ของตน
นอกจากนี้ยังมีการรายงานข่าวว่า คลับวันได้มีการดูแลทุกหน่วยงาน ขอยืนยันว่าจังหวัดชลบุรีไม่มีนโยบายในการรับสินบนจากสถานบริการ และยังกำชับให้ตำรวจ และฝ่ายปกครองดำเนินการกวดขัดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะคนที่อ้างว่าเคยกับข้าวกับผู้ว่าฯ ตนเองไม่เคยรู้จัก และมีการอ้างว่าไปพูดคุยกับสถานบริการ ยืนยันว่าไปจริง เพราะเป็นผู้ว่าฯจะต้องไปรับฟังปัญหา เพื่อจะแก้ไขปัญหาให้กับสถานประกอบการ แต่ไม่ได้กินข้าวกับใครเพราะไปประชุมกับผู้ประกอบการ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานประกอบการในพัทยา
“ส่วนการดำเนินการกับร้านคลับวัน ขณะนี้ได้ผู้ประกอบการชี้แจงภายใน 31 ตุลาคม 2565 เพื่อพิจารณาการปิดสถานบริการดังกล่าว ส่วนการจะปิดสถานบริการ 5 ปีนั้น จึงต้องรอการชี้แจงของผู้ประกอบการก่อน หลังจากพิจารณาแล้วจะปิดหมาย เพื่อบังคับตามคำสั่งต่อไป การดำเนินการเกี่ยวกับสถานบริการคงต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัดต่อไป ซึ่งมีทั้งยาเสพติด อาวุธปืน การห้ามเด็กเข้าสถานบริการ และยังยึดตามกฎหมายไม่เกิน 02.00 น.เว้นแต่จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ซึ่งพัทยาของเวลาปิดสถานบริการ 04.00 น.ซึ่งคณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาต่อไป” นายธวัชชัยกล่าว
ทางด้าน พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศกล่าวว่า หลังเกิดเหตุจึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง และได้เชิญนายนิติพัฒน์ หรือ “เสี่ยเอี๋ยว พัทยา” มาคุยกันที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ชลบุรี และยอมรับว่ามีอาการมึนเมา และไม่มีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ หากตรวจสอบพบจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด กรณีที่มีเพจนำรูปของตนกับนายนิติพัฒน์ไปลง มีข้าราชการ พรรคพวกเพื่อนฝูงมาร่วมแสดงความยินดีช่วงที่ตนเองมารับตำแหน่งใหม่ และยังมีนายนิติพัฒน์ซึ่งรู้จักกับเพื่อนนักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกัน มาแสดงความยินดี และคุย 5-10 นาที ทราบว่าเป็นผู้ประกอบการในเมืองพัทยา และไม่รู้จักกันมาก่อน ส่วนเรื่องข่าวที่เกิดความเสียหาย จะต้องดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ยังมีเพจเอาโพยส่วยมาแสดงขณะตนเองกินข้าว พร้อมทั้งระบุข้อความว่าไปรับผลประโยชน์ ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเพจเฉพาะกิจ และเปิดเพจที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้ว ทราบตัวว่าเป็นใคร และต้องดำเนินคดีกับคนเหล่านั้นต่อไป เพราะมีผู้เกี่ยวข้องหลายคน โดยเฉพาะคนโพสต์ในเพจต่างๆด้วย ซึ่งจะต้องดำเนินคดีทั้งหมด
พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศกล่าวว่า ภาพที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับไปร่วมกินข้าว พร้อมทั้งนำภาพโพยส่วยตำรวจมาแสดงนั้น ตนเองไปกินข้าวกับ กต.ตร.สภ.เมืองพัทยา ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบ เรื่องจริงไม่ได้คุยกันลับหลัง มีทั้งสื่อมวลชน ข้าราชการตำรวจ ประมาณ 60 คน และมีผับชื่อโบนต่อมาเปลี่ยนมาเป็นคลับวัน ก็ต้องถามว่าโพยเก็บเงินร้านโบนเก็บปีไหน และกำลังเชิญผู้ประกอบการมาสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการเก็บส่วยจริงจะดำเนินการขั้นตอนเด็ดขาดทุกราย และยังตั้งข้อสังเกตว่าผับโบนเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหนอีกด้วย
“ส่วนการดำเนินคดีคลับวันนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้ลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ในเรื่องนี้ไม่กล้าก้าวล่วง คงให้พนักงานสอบสวนดำเนินการกันต่อไป” พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศกล่าวและว่า ส่วนการปล่อยให้นักท่องเที่ยวหลบหนีไปนั้น คาดว่าตำรวจไม่กล้าใช้ความรุนแรง หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ อาจจะมีปัญหาตามมาภายหลังได้ ส่วนผู้ที่กล่าวหาว่าจ่ายเงินให้กับตำรวจหรือผู้ว่าฯนั้น เชื่อว่ามาจากอาการเมามากกว่า
#ภาพ/ข่าว นภชนก (เมย์) เหมือนนามอญ บก.ชลนิวส์ทีวีออนไลน์ รายงาน สำนักงานตั้งอยู่ที่ 8/68 ม.2 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี 092-4261993.
