SCGC ส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา ต่อยอดนวัตกรรม สร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน เน้นสร้างรายได้ ควบคู่กับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

SCGC ส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา ต่อยอดนวัตกรรม สร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน เน้นสร้างรายได้ ควบคู่กับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

 

เมื่อวันที่ 5 ก.ค.65 เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC พร้อมด้วยเกษตรจังหวัดระยอง ผู้นำชุมชน และสื่อมวลชนจังหวัดระยองลงพื้นที่เยี่ยมชม วิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง ดูวิธีการเลี้ยง การทำผลิตภัณฑ์ที่ได้จากชันโรง ซึ่งมีผลิตภัณฑ์มากมาย อาทิ สบู่ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ยาหม่อง น้ำมันหอมระเหย น้ำผึ้ง 100 เปอร์เซ็นเป็นต้น

สำหรับเกษตรกรที่ได้มีการเลี้ยงชันโรงในพื้นที่สวนอย่างเต็มรูปแบบนั้น สามารถสร้างรายได้ตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องรอขายเพียงแค่ผลไม้ตามช่วงฤดูกาล เนื่องจากน้ำผึ้งชันโรงสามารถขายได้ทุกช่วงเวลา และกำลังได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของตลาดในการเป็นน้ำตาลทางเลือกเพื่อสุขภาพ เนื่องจากน้ำผึ้งชันโรงนั้นมีลักษณะเด่นคือ เป็นน้ำผึ้งที่มีน้ำตาลในปริมาณที่น้อย เพราะพฤติกรรมของชันโรงคือจะเก็บน้ำตาลจากเกสรดอกไม้ 20 % และเกสรดอกไม้ 80 % น้ำผึ้งชันโรงจึงมีเกสรจากดอกไม้ผสมอยู่ในปริมาณที่มาก และมีความหอมและรสชาติที่แตกต่างจากน้ำผึ้งทั่วๆไป ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูงและเป็นที่ต้องการของตลาด

นางสาวน้ำทิพย์ สำเภาประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารแบรนด์และกิจการเพื่อสังคม เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC กล่าวว่า เราให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน และ ESG ครอบคลุมมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลักการ สร้างการเติบโตอย่างมีส่วนร่วม เรามุ่งสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ส่งเสริมการสร้างรายได้และกระจายรายได้สู่ชุมชน เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับสิ่งแวดล้อมที่ดี

ด้านนางประไพ คชรินทร์ ประธานวิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ SCGC เข้ามาสนับสนุนและถ่ายทอดแนวทางการทำงานให้กับวิสาหกิจชุมชน ซึ่ง SCGC มีองค์ความรู้หลายด้าน และมีแนวคิดเรื่องการพัฒนาศักยภาพเพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ เราเริ่มมีการจัดตั้งเมื่อปี 2563 ปัจจุบันมีสมาชิก 45 คน มีรังชันโรงรวมทั้งสิ้น 300 รัง ชันโรงที่เลี้ยงเป็นสายพันธ์ขนเงิน ให้น้ำหวานและชันที่มีส่วนประกอบของสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ โดยสารฟลาโวนอยด์ที่มีในผลิตภัณฑ์ของทางกลุ่มฯ จะอุดมไปด้วย แมงโกสทีน ฟลาโวนอยด์ ที่ได้จากเกศรของดอกมังคุด ซึ่งมีเฉพาะในพื้นที่เท่านั้น มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันยับยังเซลล์มะเร็ง ช่วยบำรุงสมอง นอกจากนี้ทางกลุ่มยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์จากสารสกัด พรอพอลิส และเกศรของผึ้งชันโรง อาทิ สบู่ ยาหม่อง น้ำมันหอมระเหย ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นต้น


นางประไพ กล่าวอีกว่า การเพราะเลี้ยงชันโรงก็ไม่ยุ่งยากเพราะเขาหาอาหารเอง เริ่มต้นด้วยการซื้อกล่องเลี้ยง หรือหาวัสดุจากในพื้นที่ใช้เวลาเลี้ยง 6 เดือนขึ้นไป จากนั้นจะเริ่มเก็บน้ำหวานได้รังละ 500 กรัม ราคารับซื้อของกลุ่มอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,000 บาท ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 45 คนซึ่งน้อยมาก อยากให้มีการเลี้ยงกันมากๆ เพราะมีรายได้น่าพอใจ จากอาชีพเสริมมาเป็นอาชีพหลักได้ ภายใน 1 ถึง 2 ปีเท่านั้น

สำหรับผู้สนใจเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา จ.ระยอง หรือสนใจเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับโครงการเพราะเลี้ยงชันโรงกับเอสซีจี ติดต่อได้ที่ 081-983-1158

 

เดชา สุวรรณสาร ภาพ-ข่าว

Related posts