อำเภอศรีราชาเตรียมจัดงาน “สับปะรดหวานฉ่ำของดีศรีราชา”โปรโมทสินค้าเกษตรขึ้นชื่อ

อำเภอศรีราชาเตรียมจัดงาน “สับปะรดหวานฉ่ำของดีศรีราชา”โปรโมทสินค้าเกษตรขึ้นชื่อ

วันนี้ (24 ก.ค.) นายวรจักร สถาพรภิญโญ นายอำเภอศรีราชา เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดงาน“สับปะรดหวานฉ่ำ ของดีศรีราชา ประจำปี 2566” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ก.ค.- 6 ส.ค.นี้ ณ ลานสนามบินเครือสหพัฒน์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรขึ้นชื่อของท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสับปะรดศรีราชา และยังเป็นการกระจายรายได้ให้เกิดขึ้นกับคนในชุมชน

ภายในงานนอกจากจะมีการจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรต่างๆ โดยเฉพาะสับปะรดศรีราชาแล้ว ยังจะมีการเปิดบูธจำหน่ายสินค้าโอทอป และสินค้าจากชุมชน รวมทั้งการจัดคาราวานสินค้าในเครือสหพัฒน์ทั้งสินค้าอุปโภค-บริโภค และงานมินิมอเตอร์โชว์

ไฮไลต์สำคัญยังอยู่ที่การประกวดสับปะรดพันธุ์ดี ขนุนพันธุ์ดี และการเปิดร้านจำหน่ายสินค้าของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน การแข่งขันแปรรูปสับปะรด ทั้งสับปะรดกวน แกงคั่วสับปะรถ และตำส้มตำลีลา รวมถึงการแข่งขันกองเชียร์และการประกวดธิดาสับปะรด และหนูน้อยสับปะรด

ทั้งนี้สาวงามที่สนใจเข้าร่วมการประกวดธิดาสับปะรด จะต้องมีอายุตั้งแต่ 15 -25 ปี และมีสัญชาติไทยรวมทั้งมีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.ศรีราชา ไม่น้อยกว่า 3 เดือน ซึ่งผู้ที่ได้รับตำแหน่งธิดาสับปะรดจะได้เงินรางวัลจำนวน 30,000 บาท รองอันดับ 1 รางวัล 20,000 รองอันดับ 2 รางวัล 10,000 บาท ส่วนตำแหน่งขวัญใจสื่อมวลชน และขวัญใจประชาชน รางวัล 10,000 บาท

ส่วนการประกวดหนูน้อยสับปะรด ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท รองอันดับ 1 รางวัล 10,000 รองอันดับ 2 รางวัล5,000 บาท เช่นเดียวกับตำแหน่งขวัญใจสื่อมวลชน

นายอำเภอศรีราชา ยังบอกอีกว่าปัจจุบัน อ.ศรีราชา มีพื้นที่ปลูกสับปะรดเหลือเพียง 6,384 ไร่ และมีผลผลิตประมาณ 40,000 ตันต่อปี ซึ่งปัญหาที่ทำให้พื้นที่ปลูกสับปะรดในพื้นที่ ลดลงเนื่องจากราคาพืชผลเกษตรชนิดอื่นที่สูงกว่าโดยเฉพาะมันสำปะหลัง จึงทำให้เกษตรกบางส่วนหันไปปลูกมันสำปะหลังแทน

“การจัดงานในครั้งนี้จะเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าทางการเกษตรใน อ.ศรีราชา ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นสับปะรด และขนุน จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทั้งในพื้นที่และใกล้เคียงเข้าร่วมงานซึ่งจะมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมายโดยเฉพาะสินค้าชุมชน เชื่อว่าเป็นงานใหญ่อย่างแน่นอน ” นายอำเภอศรีราชา กล่าว

ด้าน นายอาทิตย์ ทองพิมพ์ เกษตรอำเภอศรีราชา เผยว่าปัจจุบันผลหาราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ตกต่ำทำให้เกษตรกรมีรายได้น้อยลง สำนักงานเกษตรอำเภอ จึงร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหัด ดำเนินการส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่รวมตัวกันทำเกษตรแปลงใหญ่เพื่อให้เกษตรกรมีองค์ความรู้ในการพัฒนาผลผลิต

และยังส่งเสริมให้เกษตรกรแปรรูปผลผลิตสับปะรดที่เหลือจากการขายเข้าโรงงาน เป็นสับปะรดกวนสร้างรายได้

“ ปัจจุบันผลผลิตสับปะรดศรีราชาถูกส่งขายให้โรงงานมากถึง 90 % ที่เหลือ 10 % เป็นการแปรรูปและขายผลสด ซึ่งปัญหาที่ทำให้ราคาผลผลิตตากต่ำมาจากการส่งออก และปัญหาผลผลิตล้นตลาดโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการปลูกสับปะรดจำนวนมากใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งหลังจากนี้เราจะเร่งส่งเสริมการประชาสัมพันธ์สับปะรดศรีราชาให้เป็นที่รู้จักมาก”

ขณะที่ นายวีระ สาเกทอง และนางสำเนา สาเกทอง เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดรายใหญ่ใน ต. บางพระ บอกว่าทำไร่สับปะรดมาตั้งแต่ปี 2522 และได้มีการพัฒนาพันธ์สับปะรดปัตตาเวีย มาโดยตลอด ซึ่งผืนดินใน อ.ศรีราชา เป็นที่ดินบนทราย เหมาะกับการปลูกสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย จึงทำให้ผลผลิตที่ได้มีความหวานฉ่ำ เนื้อนิ่ม รสชาติอร่อย แต่จากความเจริญที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้พื้นที่ปลูกเหลือน้อยลง

จึงอยากฝากไปยังผู้ปลูกสับปะรดในพื้นที่ให้ยึดถือจุดเด่นของสับปะรพพันธุ์ปัตาเวีย ที่จะมีความสมบูรณ์เต็มที่เมื่อผลผลิตมีอายุได้ประมาณ 70-80 % ซึ่งหากเกษตรกรเลือกตัดผลผลิตในช่วงนี้จะได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพ แต่ปัญหาที่เจอคือเมื่อราคาสับปะรด พุ่งสูงเกษตรกรก็จะเร่งตัดผลผลิตออกขายโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ จนส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของสับปะรดศรีราชา ที่ปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมบริโภคของนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นอย่างมาก

Related posts