นราธิวาส-คืบหน้าสืบสวนขยายผลเอาผิดขบวนการยักยอกไอซ์กว่า 200 กิโลกรัม
จากกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในการสืบสวนขยายผลเอาผิดขบวนการยักยอกไอซ์กว่า 200 กิโลกรัม
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 เจ้าพนักงานตำรวจภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ก. พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร นำโดย พล.ต.สมดุลย์ เอี่ยมเอก ผบ.ฉก.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ ทหาร ฉก.นธ 30
และเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอสุไหงโก-ลก เจ้าพนักงานตำรวจได้บูรณาการกำลังสามฝ่าย รวมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณแยกกอไผ่ ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ขณะที่กำลังตั้งจุดตรวจจดสกัดอยู่นั้น ได้มี รถยนต์เก่ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีบรอนซ์ทองหมายเลขทะเบียน ขก 7989 สุราษฎร์ธานี ตรวจสอบเบื้องต้นมีผู้ขับขี่เพียงผู้เดียว ทันใดนั้นเองชายคนดังกล่าวก็ ได้เร่งเครื่องและขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ต.อ.โกเมศ ชอบแต่ง และ ส.ต.อ.ทรงวิชต์ แก้วมณี เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ล้มลง ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเจ้าหน้าก็ได้ขับหลบหนีไปทางหมู่บ้านการเคหะ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ติดตามไปอย่างกระชันชิด จนไปถึงทางตันปากทางเข้าหมู่บ้านการเคหะ คนร้ายได้ทิ้งรถไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจค้นรถ คันที่คนร้ายได้จอดทิ้งไว้
จากการตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ไอซ์) ชนิดเกล็ดสีขาว บรรจุอยู่ในถุงขาเขียว จำนวน 90 ถุง ถุงละประมาณ 6 กิโลกรัม รวมทั้งสิ้น 90 กิโลกรัม โดยแบ่งบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ย จำนวน 5 กระสอบ ซึ่งซุกซ่อนอยู่บริเวณด้านหลังคนขับจำนวน 9 กระสอบ และซุกซ่อนอยู่ท้ายรถจำนวน 5 กระสอบ เหตุเกิดที่ บริเวณถนนปากทางเข้าหมู่บ้านการเคหะ หมู่ที่ 9 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ล จ.นราธิวาส เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ทั้งนี้จากการสืบสวนขยายผลทราบว่าชายผู้ที่ขับรถยนต์คันดังกล่าว คือนายสุกรี กรียามาน อายุ 37 ปี ที่อยู่ 43/73 หมู่ที่ 6 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
วันนี้ 7 ม.ค.62 พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า จากเรื่องดังกล่าวทราบว่ามีการนำเอายาเสพติดจากการจับกุมที่ สภ.สุไหงโก-ลก มาจำหน่ายคือยักยอกของกลาง ในเรื่องนี้หลังจากที่ถูกจับกุมตัวแล้วทางสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้มีการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกจับกุมด้วย ขณะเดียวกันก็สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกเรื่องหนึ่ง จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมให้การซัดทอดว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง ได้ดำเนินการหลังจากที่ถูกจับกุมตัวดำเนินคดีและขณะนี้เราดูจากบันทึกจับกุมเราดูจากคำให้การจากคำซัดทอดของ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกจับกุมตัว ที่สภ. หาดใหญ่ ซึ่งมีเรื่องต้องพิจารณาอยู่หลายเรื่องหลายองค์ประกอบด้วยกัน
เนื่องจากว่าไปเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนาย แต่ขณะเดียวกันนี้ในทางคดีก็จะเป็นเรื่องของตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ซึ่งต้องดำเนินการเพราะต้องรอดูว่าผลคดีหรือมีการออกหมายจับคนที่เกี่ยวข้องใครบ้าง แต่ในทางวินัยเราได้ดำเนินการเสนอไปยัง ตร.เพื่อให้ออกจากราชการไว้ก่อนซึ่งตอนนี้รอหนังสือจาก ตร. ส่งมาให้ว่าได้สั่งให้ออกได้หรือไม่อย่างไรซึ่งในส่วนของคดีไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากว่าคดีนี้ว่าไปตามพยานหลักฐานว่าไปตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่มีใครมานั่งช่วยเหลือเรื่องแบบนี้ ขณะเดียวกันทางวินัยถ้าหากมีการเกี่ยวข้องรับรองว่าจะมีการทำโทษไม่ไหวและไม่ช่วยเหลือใครทั้งสิ้น เนื่องจากว่าบุคคลเหล่านี้สร้างเงื่อนไขในพื้นที่แล้วก็ไม่มีผู้บังคับบัญชาท่านไหนที่จะเข้าไปช่วยเหลือให้รอดพ้นจากความผิดได้เลย แต่ในการพิจารณาเราต้องให้รอบคอบ เนื่องจากว่ามันเป็นคำซัดทอดของผู้ต้องหาดังนั้นในเรื่องของคดีในเรื่องของวินัยก็ดี มันจะต้องสอดคล้องกันไปทั้งหมดซึ่งตัวผมเข้าใจเราได้พยานหลักฐานที่ชัดเจนถ้าหากได้พยานหลักฐานที่ชัดเจนเมื่อไหร่เราดำเนินการทันที
ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส