พัทลุง-หนุ่มกู้ภัยน้ำใจงาม วอนช่วยเหลือสองตายาย

พัทลุง-หนุ่มกู้ภัยน้ำใจงาม วอนช่วยเหลือสองตายาย

 

จากเหตุการณ์ที่มีคุณยาย เทียบ ขี้หนู อายุ 82 ปี ได้ประสานให้ญาติโทรเรียกรถฉุกเฉิน 1669มารับคุณตา ชม อินทร์มา อายุ 84ปี ที่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากล้มลง ให้ไปส่งโรงพยาบาลพัทลุง จนกระทั่งพบหมอแล้วเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ประสานรถจากหน่วยมูลนิธิกู้ภัยพัทลุงมารับสองตายายไปส่งกลับบ้าน เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 ม.ค.63 ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปส่งสองตายายถึงที่บ้าน ซึ่งเป็นห้องเช่าไม่มีเลขที่ อยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลเมือง ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง คุณยายเทียบ วัย 82ปี ได้พูดขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ พร้อมพูดปิดท้ายสั้นๆว่า “ยายไม่มีตังค์เป็นสินน้ำใจจะให้นะเพราะยายไม่มีตังค์” ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไร แต่ระหว่างนั้นก็บังเอิญหันไปเห็นหม้อข้าว ที่มีเพียงข้าวก้นหม้อ กับไข่ทอดเพียงเท่านั้น ก่อนมีการพูดคุยกันระหว่างเจ้าหน้าที่และคุณยายเทียบ พอทราบเรื่องราวของยายทำเอาเจ้าหน้าที่ถึงกับน้ำตาคลอเพราะสงสาร ก่อนมีการโพสต์เฟสบุ๊คของตัวเองเล่าเรื่อราวที่เกิดขึ้น


และเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา นายธีรยุทธ์ จันทร์ผลึก เจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง เดินทางมาหายายอีกครั้งพร้อมซื้ออาหารมามอบให้ตากับยายด้วยส่วนหนึ่ง ก่อนมีการพูดคุยกัน ระหว่างพูดคุยสังเกตเห็นคุณยายเทียบน้ำตาคลอดีใจที่มีคนแวะมาเยี่ยมที่บ้าน พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์ก่อนไปโรงพยาบาลเมื่อวานให้ฟังว่า เมื่อวานช่วงเย็นคุณตาชมฯ ได้ล้มลง คุณยายตกใจจึงโทรเรียกรถพยาบาลแต่กดเบอร์ผิด จึงโทรหาหลานสาวที่ขายของอยู่หน้าสถานีรถไฟให้ช่วยประสานรถโรงพยาบาลให้หน่อย ก่อนที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมารับ จนกระทั่งหาหมอเสร็จ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็ประสานให้รถจากหน่วยกู้ภัยฯมารับกลับบ้าน
จากการลงพื้นที่ไปดูที่ห้องเช่าที่สองตายายอาศัยอยู่นั้น สภาพก็พออยู่ได้ แต่ที่เป็นปัญหาหนักของสองคนตายาย คือ เวลาจะดินทางไปซื้อข้าวปลาอาหาร ของใช้ต่างๆ ค่อนข้างลำบาก คุณยายเทียบฯ ต้องเดินเท้าไปซื้อของกินของใช้ ซึ่งห่างจากที่พักระยะทางเกือบ 3 กิโล อีกทั้งพื้นที่จุดดังกล่าว มีรถสัญจรไปมามาก เกรงจะได้รับอันตราย บวกกับสภาพร่างกายอายุของยายที่มากแล้วด้วย ส่วนคุณตาชมฯ ก็พิการขาด้วน สายตาก็ฝ้าฟางมองอะไรไม่ค่อยเห็นแล้ว แถมสุขภาพร่างกายก็มีโรคประจำตัวตามประสาผู้สูงอายุทั่วไป


คุณยายเทียบฯ เล่าว่า คุณยายจะเดินออกไปซื้อของวันเว้นวัน แกงถุงหนึ่งซื้อมาแล้ว กินไม่หมดก็เจียดอุ่นตั้งไฟไว้ได้พอกินสัก2วัน ส่วนอาหารอย่างอื่นก็ซื้อมาตุนไว้ เช่น ไข่ ปลากระป๋อง ข้าวสาร แต่ก็ซื้อตุนไว้ไม่มากนัก เพราะไม่มีเงิน เงินบางส่วนต้องเก็บไว้เป็นค่าเช่าบ้านเดือนละ 1,200 บวกค่าน้ำค่าไฟอีกเดือนละ 200 บาท ส่วนรายได้หลักของสองตายาย ก็ได้มาจากเบี้ยคนพิการและเบี้ยผู้สูงอายุของตา จำนวน 1,600 บาท เบี้ยผู้สูงอายุของยายอีก จำนวน 800บาท รวมรายได้ต่อเดือนประมาณ 2,400บาท หักค่าบ้านค่าน้ำ ค่าไฟแล้วเหลือประมาณ 1,000บาท ไว้พอซื้อกับข้าวปะทังชีวิต แต่เงินในส่วนเบี้ยยังชีพที่ได้ คุณยายต้องเดินทางไปรับที่ต่างอำเภอ เดินทางโดยรถไฟไปอีกทอดหนึ่งซึ่งก็สร้างความลำบากในการเดินทางเป็นอย่างมาก ส่วนเงินบางส่วนอาจมีบ้างนานๆครั้งที่ลูกๆของคุณตาโอนมาให้ใช้จ่ายครั้งละ 500 บาท


ส่วนปัญหาเรื่องการเดินทางของสองตายาย ส่งผลให้ในบางครั้งตากับยายก็ไม่ได้ไปรับยาตามหมอนัด เพราะคุณตาชมเอง ไม่สามารถนั่งรถจักรยานยนต์ได้ ต้องใช้รถเข็นหรือรถที่สำหรับนอนได้เท่านั้น และอีกอย่างก็มีปัญหาเรื่องเงินด้วยส่วนหนึ่ง
หลังจากนั้นคุณยายเทียบฯ ก็พาไปเดินดูความเป็นอยู่ของตากับยายภายในห้องเช่าดังกล่าว พบในห้องนอนมีเพียงเสื่อผืนเดียว และที่นอนแบบบาง ผ้าห่มบางๆกับเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ตัว ด้านนอกบ้านคุณยายก็จัดเป็นที่หุง ทำกับข้าวโดยใช้เตาถ่าน ฟืนก็หาเอาข้างๆบ้าน
ก่อนมานั่ง และเล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า เดิมสองตายายทำงานอยู่ที่โรงโม่หิน ก่อนคุณตาจะเกิดอุบัติโดนหินหล่นทับจนขาขาดและมาถูกรถบรรทุกเหยียบซ้ำจนต้องตัดขาเพิ่มเติม และไม่ได้ทำงาน ก่อนมาเปิดที่สำหรับขายของชำกัน แต่ระยะหลังสุขภาพไม่ดี ทำงานไม่ไหว เลยกลับมาอยู่ที่พัทลุงโดยมาเช่าบ้านอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
สำหรับใครที่สนใจจะช่วยเหลือสองตายาย สามารถร่วมบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี นส.เทียบ ขี้หนู บัญชีเลขที่ 02-015-896 7214 หรือติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ของคุณยายเทียบฯโดยตรง ทาง 082-0191923 ข้าวของจำเป็นที่สองตายายต้องใช้ ได้แก่ รถเข็นสำหรับผู้ป่วยแบบพับเก็บได้ 1 คัน หมอน ผ้าห่ม และของใช้ในครัวเรือน เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง แต่ต้องเป็นของที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุด้วยเท่านั้น.

Related posts