จิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ประธาน กมธ.การเงิน การคลัง เร่งติดตามคดีเมืองไทย แคปปิตอล ติดตามเอกชนจดหน่วยไฟฟ้า ตัดไฟฟ้า สร้างความไม่เป็นธรรมกับชาวบ้าน
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุมกรรมาธิการ N 403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการการเงิน การคลัง ในคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการการเงิน การคลัง โดยมีนายณพล (สัมภาษณ์) บริบูรณ์ ที่ปรึกษาประจำคณะอนุกรรมาธิการการเงิน การคลัง รองศาตราจารย์ พ.ต.อ.ดร.สมดุลย์ ดำทองสุข ที่ปรึกษาประจำคณะอนุกรรมาธิการการเงิน การคลังนายฐานวัฒน์ วิบูลย์ธนสาร ที่ปรึกษาประจำคณะอนุกรรมาธิการการเงิน การคลังรวมทั้งคณะอนุกรรมาธิการการเงิน การคลัง ได้เข้าประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง
ในการประชุมครั้งนี้ได้มีวาระการประชุมที่สำคัญๆ คือ การกำหนดและกำกับดูแลอัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเชิญ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มาให้ข้อมูลต่อคณะอนุกรรมาธิการ เนื่องจากค่าเงินบาทมีการผันผวนเกรงว่าจะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมทั้งติดตามการดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ “เอ็มทีซี” โดยเชิญ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มาให้ข้อมูลต่อคณะอนุกรรมาธิการ
นอกจากนี้ยังมีประเด็นการจัดจ้างบริษัทตัวแทนจดหน่วยแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยไม่ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยเชิญ อธิบดีกรมบัญชีกลาง มาให้ข้อมูลต่อต่อคณะอนุกรรมาธิการ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านถูกตัดไฟฟ้าอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งการตัดไฟควรให้พนักงานการไฟฟ้าเป็นคนดำเนินการ เพราะหากเกิดการผิดพลาด ในฐานะพนักงานของรัฐวิสาหกิจ จะมีบทบังคับทางอาญาในการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มีทั้งโทษจำคุกและปรับ และยกเลิกการให้เอกชนไปตัดไฟ เพื่อความรอบครอบและความปลอดภัยของประชาชน และการเก็บเงินค่าตรวจสอบคุณภาพข้าวส่งออกของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยเชิญตัวแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มาให้ข้อมูลต่อคณะอนุกรรมาธิการฯ
ภาพ/ข่าว น.ส.นภชนก เหมือนนามอญ สัมภาษณ์ บริบูรณ์ รายงาน.