สระแก้ว#พระอารามหลวงจัดงานประปีปิดทองหลวงพ่อทองและหลวงพ่อเส็งแถมข้าวต้มมัดได้บุญอิ่มท้องและเป็นสิริมงคลด้วย
*****เมื่อเวลา 18 .00 น.ของวันที่ 11 ก.พ.63 ณ วัดสระแก้วพระอารามหลวง อ.เมือง จ.สระแก้ว พระครูปลัดมุนินสิทธิ์ ฐานรโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระแก้ว พระอารามหลวง ได้จัดงานไหว้พระปิดทองหลวงพ่อทอง หลวงพ่อเส็ง อดีตอาวาสวัดสระแก้วและอดีตเจ้าคณะจังหวัดสระแก้ว และงานพิธีพุทธาภิเษกเหรียญบูชาหลวงพ่อทองย้อนยุค จากนั้นวัดได้ร่วมกับชาวบ้านบริจาคเงินซื้อกล้วยน้ำหว้า ข้าวเหนียว เป็นตันๆ มาทำข้าวต้มมัดห่อใหญ่ๆมัดเดียวอิ่มทั้งบ้าน ไว้คอยแจกจ่ายให้กับญาติโยมที่เดินทางมาไหว้พระปิดทองตามกำลังศรัทธาหรือมากราบไหว้เฉยๆ ขากลับบ้านพระอาจารย์ก็จะให้โฆษกเชิญญาติโยมมารับข้าวต้มมัดกลับไปทานที่บ้านเพื่อเป็นสิริมงคล คนละ 1-2 มัดแล้วแต่โยมต้องการเอากลับไป ฟรี ไม่ต้องบริจาคเพิ่ม เป็นน้ำใจจากวัดและลูกศิษย์หลวงพ่อทอง หลวงพ่อเส็ง
*****ท่านพระครูปลัดมุนินสิทธิ์ฯ บอกว่าเป็นเรื่องที่ดีชาวบ้านมาวัดแล้วมีกิจกรรมทำข้าวต้มมัดช่วยกัน ได้เสวนาพูดคุยกันได้ทั้งวันไม่น่าเบื่อมีทั้งผู้สูงอายุและหนุ่มสาวนับร้อยคนมาช่วยกันห่อและนึ่งข้าวต้มมัด โดยช่วยกันบริจาคเงินและแรงกายเพื่อความรักความสามัคคีร่วมกันอย่างกลมเกลียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่ง.เพราะความอร่อยแถมยังมีอายุอยู่ได้นาน หากเก็บรักษาดีๆ ทั้งที่ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ทำให้ ข้าวต้มมัดชาวอำเภอเมืองสระแก้ว สืบทอดสูตรขนมไทยแสนอร่อยของกลุ่มแม่บ้านอย่างสร้างสรรค์ไส้ใหม่ๆ ให้กับข้าวต้มมัด เอาใจผู้บริโภคยุคนี้ที่ต้องการทางเลือกใหม่ๆ ที่หลากหลาย หันมาทำข้าวต้มมัดแทน ความโดดเด่นของข้าวต้มมัดมี ความอร่อย ด้วยวัตถุดิบที่เลือกใช้ ส่วนผสมที่ลงตัวพอดี ความใส่ใจในกระบวนการผลิตอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ข้าวเหนียวที่ไม่แฉะ ความสุกของกะทิ ความสะอาดของใบตอง การใช้ไฟแรงและนึ่งยาว นี่เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ข้าวต้มมัดของเราอร่อย และมีอายุอยู่ได้นานกว่าข้าวต้มมัดทั่วไป
*****พระครูปลัดมุนินสิทธิ์ ฐานรโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระแก้ว พระอารามหลวง กล่าวว่า พระครูรัตนสราธิคุณ (ทอง รัตนสาโร) หลวงพ่อทอง วัดสระแก้ว เกิดวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2449 มรณภาพ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2523 อายุ 74 ปี อุปสมบท 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2470 มีพรรษา 53 พรรษาวัดสระแก้ว เจ้าอาวาสวัดสระแก้ว เจ้าคณะอำเภอสระแก้ว พระอาจารย์ผู้บุกเบิกวัดสระแก้วด้วยความลำบากตรากตรำอย่างยิ่ง ท่านได้บูรณะซ่อมแซมปฏิสังขรณ์วัดเมื่อครั้งสมัยสงครามอินโดจีนติดต่อกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาที่ข้าวยากหมากแพง ชาวบ้านยากจน มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ท่านได้ให้พระภิกษุในวัดถางไร่เพื่อปลูกข้าวและปลูกพืช จนได้ข้าวปลาอาหารเลี้ยงพระภิกษุสามเณรในวัด เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของชาวบ้าน ต่อมาท่านได้เกณฑ์พระภิกษุ สามเณร เด็กวัด และ ชาวบ้านร่วมกันปลูกอ้อย ปลูกข้าวโพด และพืชยืนต้นต่าง ๆ ในสวนที่นายเว่าและนางตื้อถวายให้แก่วัด เพื่อนำผลประโยชน์มาบำรุงวัดต่อไป
/ภาพ ข่าว สมศักดิ์ สารการ วีระยุทธ สารการ 087-6142444 สระแก้ว รายงาน”