ระยอง-เรือนจำกลางระยอง คัดกรองญาติก่อนเข้าพบผู้ต้องขังหวั่นเชื้อร้ายเข้าสู่เรือนจำ
หลังเกิดการแพทยระบาดของเชื้อโควิช 19 ตอนนี้เรือนจำกลางระยองเพิ่มมาตรการในการคัดกรองบุคคลที่จะพบผู้ต้องขังในเรือนจำซึ่งเป็นเรือนจำความมั่นคงหนึ่งในห้าของประเทศที่มีผู้ต้องขังทั้งหญิงและชายรวมเกือบ 8000 คน
นายนที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำกลางระยองบอกว่าตอนนี้ได้เพิ่มมาตรการคัดกรองบุคคลที่จะเข้าสู่เรือนจำ ไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องขังรายใหม่หรือผู้ต้องขังที่เดินทางออกไปทำกิจกรรมนอกเรือนจำ จะต้องผ่านการคัดกรองสุขภาพตรวจวัดไข้และล้างมือก่อนทุกครั้ง
เช่นเดียวกับประชาชนหรือหน่วยงานที่จะเข้าเยี่ยมชมกิจกรรมของเรือนจำกลางก็จะต้องผ่านจุดคัดกรองอย่างละเอียดเพื่อป้องกันปัญหาการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิช 19
ขณะที่นายปริญญา โพธิสัตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยองบอกว่ายังไม่ได้กำหนดมาตรการห้ามจัดกิจกรรมตามแหล่งชุมนุมคนเพียงแต่ขอให้อยู่ในวิจารณญาณของผู้จัด ขณะเดียวกันก็ได้ส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลการเดินทางเข้าออกของนักท่องเที่ยวตั้งแต่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา ไปจนถึงท่าเรือบ้านเพ ซึ่งเป็นจุดขึ้นลงเรือของนักท่องเที่ยวที่จะมุ่งหน้าไปยังเกาะเสม็ด และเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
ขณะเดียวกันเชื่อมั่นว่าการต้อนรับด้วยมิตรไมตรีจิตและอยู่ร่วมเผชิญปัญหากับนักท่องเที่ยวชาวจีนยังมีขั้นตอนโดยไม่รังเกียจจะทำให้เกิดความสัมพันธ์อันดีและเมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติก็มั่นใจว่านักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวจะกลับมาเยือนประเทศไทยอีก
จึงอยากให้กลุ่มผู้ประกอบการพยายามปรุงและพัฒนากิจกรรมของตัวเองอย่าพึ่งท้อถอยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะอาจจะเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นสั้น สิ่งที่ต้องเตรียมการณ์คือจากนี้หากสถานการณ์ดีขึ้นจะปรับตัวเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่กลับจะมาเยีอนอย่างไร
โดยเมื่อวานนี้ผู้เข้าอบรมของสถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรการบริหารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน ได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมกิจกรรมที่เรือนจำกลางจังหวัดระยอง โดยแบ่งกลุ่มผู้เข้าอบรมให้ความรู้กับผู้ต้องขังทั้งชายและหญิงไม่ว่าจะเป็นในด้านกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิของผู้ต้องขังกลุ่มเปาะบางและด้านสุขภาพโดยมีการตั้งจุดให้บริการตรวจสุขภาพแก่ผู้ต้องขัง
นอกจากนี้ยังจัดให้มีการแสดงดนตรีพร้อมมอบข้าวสาร อุปกรณ์ทางการแพทย์รวมถึงของใช้จำเป็นเพื่อให้กำลังใจแก่ผู้ต้องขังในการดูแลตัวเองและฝึกอาชีพก่อนจะพ้นโทษไปเป็นประชาชนที่มีคุณภาพในสังคม
ภาพ/ข่าว เดชา สุวรรณสาร รายงานจาก จ.ระยอง
