ระยอง.. เจ้าของร้านขายของชำในอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ร้องสื่อมวลชนถูกคนร้ายเข้ามาจี้ชิงทรัพย์ และงัดบ้านขโมยทรัพย์สินหลายครั้ง แต่ตำรวจไม่เคยจับคนร้ายได้แม้แต่ครังเดียว จึงขอตั้งรางวัลนำจับ 1 หมื่นบาท สำหรับผู้ที่ให้เบาะแส หากยังจับตัวคนร้ายไม่ได้จะปิดกิจการ
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าว ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ในตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ว่าได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักถูกโจรงัดบ้านขโมยทรัพย์สินนับครั้งไม่ถ้วน เกิดเหตุแต่ละครั้งไม่สามารถจับคนร้ายได้เลย เพราะไม่มีหลักฐาน รู้สึกท้อจนอยากจะเลิกกิจการ และไม่มั่นใจในความปลอดภัยของลูกสาวทั้ง 3 คน ล่าสุดคนร้ายลงมืออีกครั้ง กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้ในระยะไกลจึงไม่เห็นใบหน้า และหมายเลขทะเบียนรถ
เหตุเกิดบ้านเลขที่ 553 หมู่ 5 ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง เป็นบ้านของนายเสวก วิฬาสุวรรณ อายุ 55 ปี ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ ช่วงเวลาที่คนร้ายก่อเหตุเป็นช่วงเวลาที่ร้านปิดแล้ว ประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ ของวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 คนร้ายอาศัยจังหวะเจ้าของบ้านไม่อยู่ ไปต่างจังหวัดโดยทิ้งให้ลูกสาว 3 คนนอนเฝ้าบ้าน คนร้ายได้จอดรถจักรยานยนต์แล้วเดินลัดป่าเข้ามาทางหลังบ้าน ทำการส่องดูว่าห้องไหนไม่เปิดไฟ ก่อนใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมางัดหน้าต่าง และเหล็กดัด เข้าไปรื้อค้นทรัพย์สิน ภายในห้องนอนของนายเสวก ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปมี เงินสดประมาณ 2 แสนบาท ,พระเครื่องประมาณ 100 องค์ ,อาวุธปืนขนาด 9 มม.หนึ่งกระบอก รวมมูลค่ากว่าสามแสนบาท เจ้าของบ้านถึงกับน้ำตาซึมเพราะความเสียดายของที่สะสมมา
นายเสวก กล่าวว่าคนร้ายใช้เวลาก่อเหตุเพียง 10 นาที กล้องในห้องนอนก็ไม่มี ก่อนหน้าก็เคยโดนงัดบ้านไปแล้ว 2 ครั้ง ลูกสาวก็โดนจี้ตรงหน้าร้าน ได้เงินไป 3 หมื่นบาทกว่าบาท แล้วก็สร้อยคอทองคำขาดติดไปครึ่งเส้น เพราะลูกสาวแย่งคืนได้ ทุกวันนี้ยังติดตามตัวคนร้ายไม่ได้เลย ส่วนเงินสดตนไม่ได้นำไปฝากธนาคารเพราะเป็นเงินสะสม ต้องเตรียมใว้ทอน เป็นเงินสำรอง เพราะของจะมาลงตลอด ทุกวัน จึงอยากจะฝากเตือนร้านค้าอย่าเก็บเงินใว้ที่บ้าน ให้นำไปฝากธนาคารจะดีกว่า เพราะทุกวันนี้ใว้ใจใครไม่ได้ ตอนนี้กังวนมากนอนไม่ค่อยหลับ อาวุธปืนที่มีใว้ป้องกันตัวก็ถูกคนร้ายเอาไปแล้ว ทำการค้าแล้วมาเจอแบบนี้ รู้สึกท้อ ไม่อยากจะขายแล้วกว่าจะได้แต่ละบาทแต่ละสตางค์ ขายเป็นปีก็ไม่พอ ฝากสื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงให้หน่อยครับ ชาวบ้านเขาหวาดผวากันหมดแล้ว
ด้านนางภาวิณี วิฬาสุวรรณ อายุ 27 ปี ลูกสาวเจ้าของร้านกล่าว่า วันเกิดเหตุพ่อไม่อยู่บ้าน มีแต่หนูอยู่กับพี่สาวและน้องสาว รวม 3 คน แต่เราอยู่คนละด้านกับห้องของพ่อจึงไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ มารู้อีกทีตอนน้องสาวไปเปิดห้องพ่อตอน 4 ทุ่ม คนร้ายเข้ามาทางหน้าต่าง รื้อทรัพย์สินมาวางบนเตียง ได้เงินสดที่พ่อใส่ใว้ในถังประมาณ 2 แสนกว่าบาท ,พระเครื่องหนึ่งห่อใหญ่ ,ปืนหนึ่งกระบอก มีสร้อยคอทองคำแต่คนร้ายหาไม่เจอ
นี่ก็ผ่านมา 10 วันแล้วคดียังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ก็อยากจะฝากรถตู้ คันที่ขับผ่านหน้าบ้านเราช่วงเวลานั้น อยากให้แจ้งเบาะแส จากกล้องหน้รถ เพราะว่าน่าจะเป็นเบาะแสเดียวที่เราสามารถตามจับตัวคนร้ายได้ ฝากตำรวจเร่งติดตาม คนร้ายน่าจะก่อเหตุมาหลายที่ ถือเป็นภัยสังคม นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก โดนเป็นรอบที่ 3 แล้ว พ่อกับแม่ก็ท้อแล้ว ทำไปก็ไม่เหลือคนร้ายเอาไปหมด เงินที่จะลงทุนใหม่ก็ไม่มีแล้ว เท่าที่ทราบก็มีหลายบ้านที่โดนแล้วติดต่อมาทางเรา ฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย น่าจะไปก่อเหตุซ้ำอีกแน่นอน
เดชา สุวรรณสาร ผู้สื่อข่าว จ.ระยอง
