จี้รัฐบาล เร่งช่วยเหลือวัตถุดิบอาหารสัตว์ก็พุ่งหลังรัสเซียและยูเครนเปิดศึกยิงกันแล้ว เหตุเป็นแหล่งนำเข้าข้าวสาลี ข้าวโพดสำคัญ

จี้รัฐบาล เร่งช่วยเหลือวัตถุดิบอาหารสัตว์ก็พุ่งหลังรัสเซียและยูเครนเปิดศึกยิงกันแล้ว เหตุเป็นแหล่งนำเข้าข้าวสาลี ข้าวโพดสำคัญ

ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาที่ผ่านรัฐให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์อยู่ในความครบคุมของภาครัฐโดยเฉพาะกรมการค้าภายใน ซึ่งขณะนั้นราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ก็พุ่งอยู่แล้ว แต่มายังตอนนี้ มาเจอ สถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ที่ได้เปิดศึกยิงใส่กันแล้ว มีผลอย่างยิ่งต่อราคาธัญพืช ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของการผลิตอาหารสัตว์ เนื่องจากรัสเซียและยูเครนเป็นแหล่งเพาะปลูกสำคัญ ทั้งข้าวสาลี ข้าวโพดสำหรับข้าวสาลีนำเข้า ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการเลี้ยงไก่ ราคาปรับสูงขึ้นจาก 8-9 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อปี 2564 เพิ่มเป็น 12 บาทต่อกิโลกรัมในปัจจุบัน

ขณะที่ข้าวโพดในประเทศไทย ราคาปรับไปถึง 11.10 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันวัตถุดิบอาหารสัตว์ส่วนใหญ่ราคาขึ้นมาสูงกว่า 50-60% แล้ว ยังไม่นับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่จะสูงขึ้นทำให้ต้นทุนค่าขนส่งปรับเพิ่มด้วย
ดร.ฉวีวรรณ กล่าวอีกว่าทางสมาคมและผู้ประกอบยัง เคยแนะแนวทางแก้ปัญหาราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่งสูง โดยรัฐบาลควรลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้เลี้ยงสัตว์ ทั้งกากถั่ว ข้าวโพด และวัตถุดิบอื่นๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ แต่รัฐบาลยังนิ่งเฉย ดังนั้น สิ่งที่ขอฝากไปยังรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์คือ การแก้ไขปัญหาเรื่องต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ อย่างจริงจังและเป็นรูปประธรรม เพราะที่ผ่านมาเกษตรกรก็พูดมาตลอดว่าแบกรับต้นทุนมาตลอด


ซึ่งตนเป็นนายกนายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์มา 20 ปีแล้ว แต่อยู่กับสมาคม เกือบ 30 ปี พบเห็นการบริหารประเทศมาหลายรัฐบาลแต่พอมาเจอรัฐบาลนี้ ไม่ดูแล และแก้ปัญหาไม่ตรงจุด โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์
ถ้ารัฐไม่สามารถควบคุมราคาวัตถุดิบจากผลกระทบของสถานการณ์ยูเครน ก็ควรปล่อยให้ราคาไก่และไก่ไข่เป็นไปตามกลไกที่ควรจะเป็น”
ทั้งนี้ ประเทศรัสเซียและยูเครน มีปริมาณการส่งออกข้าวสาลีรวมกันประมาณ 29% ของปริมาณการส่งออกทั่วโลก ส่วนข้าวโพด 19% ของตลาดโลก

 

จารุ สุขศรี อ.ศรีราชา

 

Related posts