รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธี “ปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นเทศกาลตรุษจีน ประจำปี2563” :
เมื่อช่วงเย็น วันที่ 22 ม.ค. ที่วงเวียนโอเดียน ถนนเยาวราช นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธี “ปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นเทศกาลตรุษจีน ประจำปี2563” โดยมี พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบช.ทท. พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ทท.1 นายสมชาย จรรยา นายชนันตชัย พฤกษ์สุกาญจน์ ที่ปรึกษากองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก Mr.Li Chunlin กงสุลใหญ่ และ Mr.Zhou Guangxu กงศุลและเลขานุการโท พร้อมด้วย Mr.Yin Ji ผู้ช่วยทูต จากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ได้เข้าร่วมในพิธี โดยมีขบวนสิงโต ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์นำโชคได้ทำการแสดงก่อนกล่าวเปิดงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ได้นำตำรวจในสังกัดมาบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กองทัพบก ,กรุงเทพมหานคร ,กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ,กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ,กองบัญชาการตำรวจนครบาล ,กองบังคับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ และกองบังคับการตำรวจจราจร ในการระดมสรรพกำลัง เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสประเพณีวันตรุษจีนระหว่างวันที่ 23-25 มกราคม นี้ ซึ่งถือเป็นวันปีใหม่ ตามปฏิทินของชาวจีน และคนไทยเชื้อสายจีน จึงมีการเดินทางจับจ่ายใช้สอยของไหว้เทพเจ้า และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว จึงส่งผลให้มีนักท่องเที่ยว และประชาชนจำนวนมาก เดินทางไปยังพื้นที่ ที่มีกิจกรรมอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ ประกอบกับ ประเทศไทย ในเทศกาลตรุษจีนเป็นช่วงเวลาที่มีทั้งการจับจ่าย และรายได้จากนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทยมีมากเป็นอันดับหนึ่งในช่วงตรุษจีน ก็คือ นักท่องเที่ยวชาวจีน ด้วยสาเหตุที่เป็นช่วงวันหยุดยาว หรือ golden week
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยต่อว่า จากข้อมูลเบื้องต้นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากจีนที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน อีกทั้งนักท่องเที่ยวจากจีนที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยมีจำนวนสูงกว่าสิบล้านคน สามารถดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศได้กว่า 5.8 แสนล้านบาท ตามที่รัฐบาลได้ขับเคลื่อน และส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมเกื้อกูล เรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา และการต่างประเทศ เป็นอุตสาหกรรมที่ต้องบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อนำประเทศไทยไปสู่แหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ โดยรัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
โดยบูรณาการ และทำงานเชิงรุก เพื่อป้องกันเหตุร้ายต่างๆ กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริม และสนับสนุนให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศพัฒนาอย่างยั่งยืน